การนำข้อมูลออก(Write, WriteLn Statement)
หลักการนำข้อมูลออกของคอมพิวเตอร์
ในการประมวลผลข้อมูลของคอมพิวเตอร์ จะมีการนำข้อมูลเข้าไปในหน่วยความจำก่อน ต่อจากนั้นจะมีการเคลื่อนย้ายข้อมูลเข้าและออกระหว่างหน่วยความจำกับหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) เพื่อทำการประมวลผลตามคำสั่งจากโปรแกรม ข้อมูลและผลลัพธ์ที่ได้จะคงถูกเก็บอยู่ในหน่วยความจำเช่นเดิม ข้อมูลเหล่านี้จะหายไปเมื่อคอมพิวเตอร์หยุดทำงาน หรือเมื่อมีโปรแกรมอื่นเข้ามาแทน ตามปกติโปรแกรมส่วนใหญ่มักจะมีการสั่งให้นำข้อมูลออกจากหน่วยความจำเสมอ ซึ่งอาจจะเพื่อแสดงที่จอภาพ พิมพ์ที่เครื่องพิมพ์ บันทึกไว้ในดิสก์ ส่งเสียงที่ลำโพง เป็นต้น
ในภาษาปาสคาล มีวิธีนำข้อมูลออกจากหน่วยความจำโดยใช้คำสั่ง Write หรือ WirteLn (Wirte-Line)
รูปแบบของ Write และ WriteLn
Write(OUTPUT, item1, item2,…..,itemN) WriteLn(OUTPUT, item1, item2,…..,itemN) |
จากรูปแบบข้างต้นมีความหมายดังต่อไปนี้
1. OUTPUT หมายถึง ตัวแปรที่เป็นชื่อของอุปกรณ์เอาต์พุตของคอมพิวเตอร์ซึ่งอาจจะเป็นจอภาพ เครื่องพิมพ์ พล็อตเตอร์ ดิสก์ ลำโพง หรืออื่น ๆ ถ้าส่วนนี้ไม่ระบุตัวแปรเอาไว้ แสดงว่าให้แสดงที่จอภาพ
2. Item1, …… , itemN คือข้อมูลต่าง ๆ ที่นำออกตั้งแต่รายการที่ 1 ถึงรายการที่ N แต่ละรายการจะคั่นด้วยเครื่องหมาย , ข้อมูลแต่ละรายการจะถูกนำออกเรียงตามลำดับจากรายการแรกถึงรายการสุดท้าย ถ้าเป็นการแสดงที่จอภาพ รายการข้อมูลจะเรียงอยู่ในแถวเดียวกัน
3. ข้อมูลแต่ละรายการ (item) อาจจะมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
8 เป็นสตริง (string) คือข้อมูลที่อยู่ในเครื่องหมาย ' ' เช่น 'HI' '4+5 = '
8 เป็นตัวแปร เช่น CarnName TotalAmount Done
8 เป็นการคำนวณ เช่น 4 + 5 (ซึ่งจะได้ผลลัพธ์เป็น 9) Value1 + Value2 (จะได้ผลลัพธ์เท่ากับผลบวกของค่าที่อยู่ใน Value1 และ Value2 )
4. สำหรับที่จอภาพ WriteLn เมื่อแสดงข้อมูลที่มีใน ( ) หมดแล้ว เคอร์เซอร์จะเลื่อนลงมาอยู่ที่คอลัมน์ที่ 1 ของแถวล่างที่อยู่ถัดลงมา ส่วน Write เคอร์เซอร์จะอยู่ตอนท้ายของแถวเดิม
ตัวอย่างที่ 1 คำสั่ง Write (' 4 + 5 = ', 4 +5 )
การแสดงผลที่จอภาพ 4 + 5 = 9 o (ตำแหน่งเคอร์เซอร์)
ตัวอย่างที่ 2 คำสั่ง WriteLn (' 4 + 5 = ', 4 +5 )
การแสดงผลที่จอภาพ 4 + 5 = 9
o (ตำแหน่งเคอร์เซอร์)
5. สำหรับ WriteLn ที่ไม่มี ( ) ต่อท้าย หมายถึง การเลื่อนเคอร์เซอร์ลงมาอยู่ที่คอลัมน์ที่ 1 ของล่างที่อยู่ถัดลงมา โดยไม่มีการแสดงข้อใด ๆ
ตัวอย่างที่ 3 คำสั่ง WriteLn
การแสดงผลที่จอภาพ
o (ตำแหน่งเคอร์เซอร์)
การกำหนดตำแหน่งแสดงข้อมูลที่จอภาพ
จากโปรแกรมที่ผ่านมาจะเห็นได้ว่า คอมพิวเตอร์จะแสดงข้อมูลเริ่มจากทางด้านซ้ายสุดของจอภาพและเรียงลำดับไปทางขวาเสมอ ในกรณีที่เราต้องการจัดตำแหน่งแสดงข้อมูลให้แตกต่าง ไปจากนี้สามารถทำได้ โดยปาสคาลกำหนดรูปแบบไว้ดังนี้
ข้อมูลที่ไม่มีทศนิยม มีรูปแบบดังนี้
ตัวอย่าง WriteLn ('Pascal' : 20);
สตริง Pascal ถูกกำหนดให้มีความยาว 20 ตัวอักษร ซึ่งจำนวนที่แท้จริงคือ 6 ตัวอักษร ดั้งนั้นคอมพิวเตอร์จะเติมเครื่องหมายวรรคเข้าข้างหน้าคำ Pascal อีก 14 ตัวเพื่อให้ครบ 20 ตัวอักษร แล้วแสดงข้อมูลโดยกำหนดตำแหน่งต่าง ๆ ดังนี้
อักษร l อยู่ตำแหน่ง 20 นับจากทางซ้ายของจอภาพ
a อยู่ตำแหน่ง 19 นับจากทางซ้ายของจอภาพ
c อยู่ตำแหน่ง 18 นับจากทางซ้ายของจอภาพ
P อยู่ตำแหน่ง 15 นับจากทางซ้ายของจอภาพ
ข้อมูลที่มีทศนิยม มีรูปแบบดังนี้
ตัวอย่าง WriteLn(123.456789 :9:2);
ในที่นี้กำหนดให้ 123.456789 มีความยาวเป็น 9 ตัวอักษร (รวมจุดทศนิยม 1 อักษรด้วย) และกำหนดให้มีเลขหลังจุดทศนิยม 2 ตำแหน่ง
คอมพิวเตอร์ จะแสดงที่จอภาพดังนี้ 123.46
โดย เลข 6 อยู่ที่ตำแหน่ง 9 นับจากทางซ้าย
เลข 4 อยู่ที่ตำแหน่ง 8 นับจากทางซ้าย
เลข 1 อยู่ที่ตำแหน่ง 4 นับจากทางซ้าย
จุดทศนิยม อยู่ที่ตำแหน่ง 7 นับจากทางซ้าย
การคำนวณเลขคณิต (Arithmatic Expression)
การคำนวณค่าทางเลขคณิต ปาสคาลมีการกระทำหรือโอเปอเรชัน (operation) รวม 6 รายการ แต่ละรายการมีเครื่องหมายหรือโอเปอเรเตอร์ (operator) ดังตารางต่อไปนี้
โอเปอเรชัน | โอเปอเรเตอร์ | ตัวอย่าง |
บวก | + | Year + 1 |
ลบ | - | Year - 1 |
คูณ | * | Price * Quantity |
หาร อินทีเจอร์ | DIV | 8 DIV 3 { ได้ค่าเป็น 2 } |
หาร | / | 8/3 { ได้ค่าเป็น 2.666} |
modulue | MOD | 17 MOD 12 { ได้ค่าเป็น 5} |
ลำดับการคำนวณ (Precedence)
ในกรณีที่การคำนวณประกอบด้วยโอเปอรเรเตอร์หลายตัว จะมีลำดับการคำนวณดังนี้
1. การคำนวณที่อยู่ในเครื่องหมายวงเล็บ ( ) จะมีการกระทำเป็นลำดับแรก
2. เครื่องหมาย * / DIV MOD มีลำดับการคำนวณก่อน + และ -
3. การคำนวณทีมีเครื่องหมายที่มีลำดับเท่ากันอยู่ด้วยกันจะมีการคำนวณจากทางซ้ายไปทางขวาตามลำดับ
ตัวอย่าง แสดงผลของการคำนวณจากโจทย์ 5*10+2*5 เมื่อกำหนดการคำนวณให้มีลำดับแตกต่างกัน
|
ซึ่งจะได้ผลลัพธ์ดังนี้
5*10+2*5 = 60
5*(10+2)*5 = 300
(5*10)+(2*5) = 60
((5*10)+2)*5 = 260
5*(10+(2*5)) = 100
การแสดงค่าจากตัวแปร
ตัวแปรเป็นชื่อของหน่วยความจำที่ใช้สำหรับเก็บข้อมูล
ตัวอย่าง สมมติมีการตั้งชื่อดังนี้
VAR Inches : Real;
Weight : Integer;
สามารถสร้างเป็นภาพความคิดได้ดังนี้
หน่วยความจำชื่อ Inches มีขนาด 6 ไบต์
ใช้สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่มีทศนิยม
หน่วยความจำชื่อ Weight มีขนาด 2 ไบต์
ใช้สำหรับเก็บข้อมูลชนิดตัวเลขที่ไม่มีทศนิยม
ตัวอย่างที่ โปรแกรมแสดงการสร้าง กำหนดค่า และแสดงค่าจากตัวแปรชนิดอินทรีเจอร์ซึ่งใช้สำหรับเก็บค่าตัวเลขที่ไม่มีทศนิยม
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น